มะเมี๊ยะ [พากย์ไทย]

โศกนาฏกรรมความรักที่ต่างเชื้อชาติต่างชนชั้นฐานะ เธอจึงจำเป็นต้องยอมเสียสละเพื่อชายคนรักที่สูงศักดิ์ในปลายรัชสมัยของสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระปิยะมหาราช เจ้าน้อยศุขเกษม ราชบุตรองค์ ใหญ่ซึ่่งประสูตรจากเจ้าหญิงจามรี รัชทายาทของเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ซึ่งไปศึกษาต่อที่เมืองมะรแหม่งตั้งแต่อายุได้ เพียง ๑๕ ปี และได้ใช้เวลาอยู่ ณ ต่างด้าวต่างแดนถึง ๕ ปีเต็มๆ เจ้าน้อยศุขเกษมเป็นชายหนุ่มรูปงาม เจ้าน้อยศุขเกษมได้พบรักกับสาวชาวเมืองมะระแหม่งนางห นึ่ง มีนามว่า "มะเมี๊ยะ" ขณะนั้นมะเมี๊ยะ
เป็นเพียงแม่ค้าสาวชาวพม่า หน้าตาพริ้มเพราได้พบกับเจ้าน้อยศุขเกษมครั้งแรกเมื่ออายุเพียง 16 ปี ขณะนั้นมะเมี๊ยะเป็นเพียงแม่ค้าขายบุหรี่ในตลาดเมือง มะระแหม่งเมื่อทั้งสองได้พบกันจึงเกิดเป็นความรักได้อยู่กินกั นฉันท์สามีภรรยาเรื่อยมาและในวันพระทั้งสองจะพากันไป ทำบุญที่วัดในเมืองมะระแหม่งอยู่เสมอ


ณ ที่ลานพระบรมธาตุศักดิ์สิทธิ์-ปูชนียสถานเก่าแก่ดั้งเดิมคู่บ้านคู่เมืองของ เมืองมะ ระแหม่งนั้นเอง ทั้งสองหนุ่มสาวซึ่งได้ครองรักเยี่ยงสามีภริยากัน หลังจากติดต่อกันไม่นานได้นั่งหมอบเคียงคู่ให้สัตย์ ปฏิญาณสาบานต่อกันว่า “จะซื่อตรงจงรักไม่แปรผันชั่วชีวิตดับ” ทั้งเจ้าหนุ่ม และมะเมี๊ยะสาวน้อย ผู้ยังไม่ เดียงสาต่อโลกและชีวิต เฝ้าแต่เพียงว่าเมื่อถึงกำหนดการที่จะต้องเดินทางกลับเชียงใหม่ ซึ่งเจ้าน้อยเพิ่งจะมีอายุครบ 20 ปี จึงได้ตัดสินใจให้มะเมี๊ยะ ปลอมตัวเป็นชายติดตามขบวน เพื่อกลับไปยังเมืองเชียงใหม่ ในฐานะเพื่อนหนุ่มชาวพม่าโดยหารู้ไม่ว่าเจ้าพ่อและเจ ้าแม่ได้หมั้นหมายเจ้าหญิงบัวนวลธิดาของเจ้าสุริยวงศ ์ ให้เป็นคู่หมั้นของเจ้าน้อย ตั้งแต่เมื่อเจ้าน้อยเดินทางไปศึกษาที่เมืองพม่าหลังจากที่ต้องแอบซ่อนมะ เมี๊ยะไว้ในบ้านหลังเล็กที่ เจ้าพ่อและจ้าวแม่จัดเตรียมเป็นที่พักมาแล้วหลายวัน
ในที่สุดเจ้าน้อยจึงตัดสินใจบอกความจริงกับเจ้าพ่อแล ะเจ้าแม่ และเจ้าน้อยรู้ดีว่า แม้ท่านทั้งสองจะมิได้เอ่ยคำใด แต่คงไม่ยอมรับให้มะเมี๊ยะเป็นศรีสะใภ้แน่นอน เนื่องจากเจ้าน้อย ได้รับการคาดหมายว่าจะได้รับตำแหน่งเจ้าหลวงองค์ถัดไ ป หากเจ้าน้อยเลือกมะเมี๊ยะเป็นภรรยา ประชาชนย่อมอึดอัดใจในการยอมรับมะเมี๊ยะ ผู้เป็นหญิงต่างชาติ มาดำรงสถานะภรรยาของเจ้าเมืองอย่างแน่นอน
สถานการณ์ในขณะนั้นน่าวิตกยิ่ง เนื่องจากอังกฤษได้แผ่อิทธิพลไปทั่วเอเซียตะวันออกเฉ ียงใต้ มะเมี๊ยะเป็นคนในบังคับของอังกฤษ และอาศัยอยู่ในคุ้มของอุปราช อาจเป็นปัญหาที่ใหญ่โตทางการเมืองได้ในภายหลัง ในที่สุดเจ้าพ่อและเจ้าแม่จึงยื่นคำขาดให้เจ้าน้อย ส่งตัวมะเมี๊ยะกลับเมืองมะระแหม่งเพื่อป้องกันปัญหาท ี่จะเกิดขึ้นกับบ้านเมือง เจ้าศุขเกษมถึงน้ำตาตลอหลังจากแน่นิ่งฟังเจ้าพ่อเจ้า แม่ ความคิดภายในสับสนบอกไม่ถูก แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ไม่เป็นผลดั่งใจเจ้าน้อย เนื่องจากปัญหาบ้านเมืองนั้นน่าวิตกยิ่ง มะเมี๊ยะได้ถูกเกลี้ยกล่อมให้กลับไปรอเจ้าน้อยที่เมื องมะระแหม่งมิฉะนั้น บ้านเมืองอาจเดือดร้อนนางได้เอ่ยขึ้นด้วยความเสียใจ และยอมจากไปเพื่อไม่ให้คนที่ตนรักได้รับความเดือดร้อน
แล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่ถูกพลัดพรากจากกันจนชั่วชีวิต มันเป็นเช้าของเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๔๖ณ ประตูเมืองที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คน ที่อยากเห็นโฉมหน้าของมะเมี๊ยะ ที่ลือกันว่างามนักหนา บรรยากาศเต็มไปด้วยความ
หดหู่และเศร้าหมอง เมื่อเจ้าน้อยพูดภาษาพม่ากับมะเมี๊ยะได้ไม่กี่คำ นางผู้มีใจรักมั่นได้ร่ำไห้ด้วยความอัดอั้นตันใจ ในอ้อมแขนที่ยากจะจากกันได้ เวลานั้นก็ล่วงเลยไปมากแล้ว เจ้าน้อยได้รับปากกับมะเมี๊ยะว่า
ตนจะยึดมั่นในคำปฏิญานที่ให้ไว้ต่อหน้าพระพุทธรูปจนกว่าชีวิตจะหาไม่
หากท่านนอกใจมะเมี๊ยะ โดยสมรสกับหญิงอื่น
ขอให้ชีวิตของตนประสพแต่ความทุกข์ทรมานใจแม้แต่อายุ ก็จะไม่ยืนยาว
เจ้าน้อยได้ให้คำมั่นสัญญาว่าภายในเดือนจะกลับไปหามะ เมี๊ยะให้จงได้แม้จะขึ้นไปบนช้างแล้วก็ตามมะเมี๊ยะก็ขอลงมาหาเจ้าน้อยอีกจนได้
เธอคุกเข่าลงกับพื้นก้มหน้า สยายผมออกเช็ดเท้าสามีด้วยความรักอาลัย
เรียกน้ำตาของเจ้าน้อยไหลลงนองสองแก้มแล้วก็โผเข้ากอ ดรัดกันอีก เหตุการณ์ต่อหน้าต่อตาที่คาดไม่ถึง
ทำให้ประชาชนทั้งชายหญิงที่มีจิตใจไม่เข้มแข็ง กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เหมือนกัน ท้าวบุญสูงต้องอึดอัดใจอย่างยิ่ง เพราะไหนจะปลอบใจให้มะเมี๊ยะกลับขึ้นไปบนหลังช้าง ไหนมะเมี๊ยะจะดึงดันกลับลงมาอีกเป็นหนที่สองวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดเจ้าน้อยอีก กว่าขบวนจะออกเดินทางได้ก็เลยกำหนดเวลาไปนานโขเจ้าน้อยยืนเหม่อมองดูจุด เล็กๆ ที่ขยับเขยื้อนเหลียวมองด้านหลังจากบนหลังช้างนั้นตล อดเวลาจนลับจากสายตาเมื่อกลับไปถึงเมืองมะระแหม่งแล้ว มะเมี๊ยะได้แต่เฝ้ารอคอยเจ้าน้อย จนครบกำหนดเดือนที่ท่านได้รับปากไว้ แต่กลับไร้วี่แววใดๆ มะเมี๊ยะ จึงตัดสินใจเข้าพึ่งร่มพุทธจักร ครองตนเป็นชี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า
นางยังซื่อสัตย์ต่อความรัก ที่มีต่อเจ้าน้อยศุขเกษม
หลังจากที่มะเมี๊ยะ ทราบข่าวการเข้าพิธีมงคลสมรส ระหว่างเจ้าน้อย กับ เจ้าหญิงบัวนวล ณ เชียงใหม่แม่ชีมะเมี๊ยะจึงเดินทางมายังเมืองเชียงใหม่ และขอพบเจ้าน้อยเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อมาคืนคำสาบานให้เจ้าน้อย เพื่อเจ้าน้อยจะได้ไม่มีอันเป็นไปอย่างคำสาบานก่อนที่จะตัดสินใจครองตนเป็น แม่ชีไปตลอดชีวิต แต่เจ้าน้อยศุขเกษม ไม่สามารถหักห้ามความสงสารที่มีต่อมะเมี๊ยะได้ จึงไม่ยอมลงไปพบแม่ชีมะเมี๊ยะตามคำขอร้องเพียงแต่มอบหมายให้เจ้าบุญสูงพี่ เลี้ยงคนสนิท นำเงินจำนวน 80 บาทไปมอบให้แก่แม่ชีมะเมี๊ยะเพื่อใช้ในการทำบุญ พร้อมกับมอบแหวนทับทิมประจำกายอีกวงหนึ่ง เป็นตัวแทนของเจ้าน้อยให้ไปกับแม่ชีมะเมี๊ยะ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มะเมี๊ยะและเจ้าน้อยต่างสะเทือนใจเป็นที่สุด
หลังจากเดินทางถึงเมืองมะระแหม่ง มะเมี๊ยะได้ครองชีวิตเป็นแม่ชีตามความตั้งใจ จนกระทั่งถึงแก่กรรมในปี พ.ศ.2505 รวมอายุได้ 75 ปี ส่วนเจ้าน้อยศุขเกษมได้รับราชการ เป็นรองอมาตย์โท ร้อยตรี เจ้าอุตรการโกศล (ศุขเกษม) ส่วนชีวิตสมรสของเจ้าน้อยก็ไม่มีความสุข ต้องแยกทางกันกับ เจ้าหญิงบัวนวล ณ เชียงใหม่เจ้าศุขเกษมติดสุราอย่างแรง จนกระทั่ง...ตรอมใจวายชนม์ เมื่ออายุได้ 30 ปี
ตอนที่1 1 2 3 4 5 6
ตอนที่2 1 2 3 4 5 6
ตอนที่3 1 2 3 4 5 6
ตอนที่4 1 2 3 4 5 6
End

Post a Comment

Copyright 2009 Simplex Celebs All rights reserved Designed by SimplexDesign